ป้ายยาตามหลัก Hofstede’s Cultural Dimension

จะเล่ายังไง ก็ต้องมาดูว่าลูกค้าเป็นแบบไหน มาต่อกับวิธีคุยกับลูกค้าที่นิสัยต่างกัน ตาม dimension ที่ต่างกัน 6 ด้าน วันนี้จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน

Individualism & Collectivism

สำหรับกลุ่ม Individualism จะมองตัวเองเป็นหลัก เคารพสิทธิส่วนบุคคล รับผิดชอบในส่วนของตัวเอง ส่วนลูกค้ากลุ่ม Collectivism จะมองภาพใหญ่ของกลุ่ม เลือกตามส่วนรวมมากกว่า ว่าตามๆ กันไป แล้วเราจะคุยกับลูกค้าสองแบบนี้ ยังไงดี

• Individualism

1. ให้รางวัลจาก action ของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น

2. บอกความแตกต่างของเรา เล่า USP

3. creative ที่เล่าความสำเร็จ กึ่งๆ บริโภคนิยม จะได้ผลกว่า

4. เพราะกลุ่มนี้จะชอบการแข่งขัน ชอบความตื่นเต้น ชอบแชร์ เราอาจจัดให้มี event หรือ challengeที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันก็ดีเหมือนกัน

• Collectivism

1. เข้าหาเป็นกลุ่ม ให้สินค้าที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน

2. ใช้ creative ที่เน้นความสัมพันธ์ เล่ากลุ่มร่วมกัน

3. เล่าด้วยคำว่า เรา เน้นให้รู้สึกเป็นฝ่ายเดียวกับเขา

4. อย่าให้เขาใส่ข้อมูลเยอะ กลุ่มนี้จะไม่อยากให้ข้อมูล เพราะกลัวจะแตกต่างจากคนอื่นๆ

Masculinity & Femininity

อันนี้จะเป็นการมองแบบ stereotype นิดนึงนะฮะ แต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มชายเป็นใหญ่ อะไรอย่างนั้นนะ กลุ่ม Masculinity จะเป็นคนที่เน้นไปทางวัตถุนิยมหน่อยๆ การแข่งขันสูง เน้นการพุ่งไปสู่ความสำเร็จ จับต้องได้ ส่วน Femininity จะคำนึงถึงคุณภาพชีวิตมากกว่า work life balance ใส่ใจความสัมพันธ์มากกว่า แล้ว treat แบบไหนให้โดนใจแต่ละกลุ่ม

• Masculinity

1. ชอบการได้ interact ชอบความตื่นเต้น

2. infographic หรือ dashboard ที่ทำให้เห็นภาพชัดๆ

3. พูดว่าเหมาะกับใครในเชิง demographic

4. gamification จะได้ผลดีเป็นพิเศษ เหมาะกับการให้ badge หรือ cer ต่างๆ

• Femininity

1. เล่าการให้ประโยชน์ในเชิงยกระดับคุณภาพชีวิต

2. มีเวลาในชีวิตมากขึ้น ช่วยความสัมพันธ์ยังไง

3. เน้นทาง psychographic มากกว่า

4. ทำ creative เน้นความสวยงาม ตอบ taste user

สำหรับในหัวข้อนี้ ยังเหลืออีก 3 ปัจจัย รอติดตามได้เลยนะครับ