top of page

กฎเศรษฐศาสตร์ที่สายยิง/ออพแอดทุกคนต้องเข้าใจ

อัปเดตเมื่อ 22 เม.ย. 2566


ค่าแอดแพง ปัญหาโลกแตกสำหรับนักการตลาด ที่ไม่ว่าจะมือฉมังขนาดไหนก็ต้องเคยผ่านเรื่องปวดหัวนี้มาก่อน ต่อให้จะซอยย่อยงบลองยิงแอดหาแคมเปญที่ถูกที่สุดก็แล้ว พอมั่นใจว่า เอาล่ะ แคมเปญนี้แหละคือหัวเรือใหญ่ ทุ่มงบลงไปแบบเทหมดหน้าตัก แต่ปรากฏว่าค่าแอดดั๊นนนนน แพงกว่าเดิม….

แต่ปัญหานี้สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่ง! มันไม่ได้เข้าใจยากอะไรเลย ทฤษฎีที่ผมจะพูดถึง เรียกว่า กฎการลดน้อยถอยลงของผลตอบแทน (Law of Diminishing Returns) เป็นกฎที่แสนจะใกล้ตัว เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเราบ่อยครั้งด้วย อย่างเช่น บุฟเฟต์ ตอนหิวจัดๆ กินถาดแรกๆ โอ๊ย มีความสุขจัง แต่หลังๆเริ่มไม่ไหว ไม่แฮปปี้เท่าตอนกินถาดแรกแล้ว เพราะอะไร? เพราะเรารู้สึกอิ่มไงล่ะครับ

กับโฆษณาก็เช่นเดียวกัน...

Audience ที่ดูโฆษณาของเรา เขาก็มีความรู้สึก "อิ่ม" ถ้าหากเขาต้องดูอะไรเดิมๆหลายครั้ง เพราะฉะนั้นการที่แคมเปญนี้ของเราตอนยิงครั้งแรกได้ผลตอบรับดี ต้นทุนต่ำ เพราะคนดูเขายังตื่นตาตื่นใจกับโฆษณาที่เพิ่งเห็น แต่เมื่อเราอัดงบเพิ่มเข้าไปกับ "แคมเปญเดิม" และ "กลุ่มลูกค้าเดิม" แน่นอนว่าผลตอบรับมันต้องถดถอยลง เพราะเขาเคยเห็นโฆษณาของเราแล้ว และมันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์มักไม่ชอบดูอะไรเดิมๆซ้ำๆ ก็เหมือนกับเพลงโปรด ต่อให้เพลงดี หรือชอบฟังมากแค่ไหน เมื่อถึงจุดอิ่มตัว เราอาจจะกด skip เพลงนั้นไปเลยก็ได้ นั่นเลยทำให้ค่าแอดเราแพงขึ้น เพราะกลุ่มลูกค้าเดิมดูโฆษณาเราน้อยลงนั่นเอง

Law of Diminishing Returns

แผนภาพ Law of Diminishing Returns แบบเข้าใจไม่ยากจาก Personal Excellence

ดังนั้น target ของเราต้องเพียงพอกับงบที่เราอัดเข้าไป ไม่ใช่อัดงบไปเป็นแสน แต่กลุ่มลูกค้ามีกระจึ๋งหนึ่ง แบบนี้คือไม่ได้นะครับ ซึ่งสูตรคำนวณจำนวน target audience ผมเคยสอนไว้ใน e-school ด้วยครับ สามารถเข้าไปเรียนกันได้

ถ้าเพิ่ม target แล้วมันยังไม่เวิร์คก็ต้องมองหาแนวโน้มอื่นที่เป็นไปได้ แนะนำให้ลองเข้าไปดูในวิดีโอก่อนก็ได้ครับ เผื่อจะได้ไอเดียแก้แอดแพงเพิ่มเติม หรือไม่ก็เข้ามาพูดคุยปรึกษากันได้ตามช่องทางข้างล่างนี้เลยครับผม



ดู 10 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page